มะละกา (Malacca) เป็นเมืองเอกของรัฐมะละกา ประเทศมาเลเซีย ในอดีตที่นี่เป็นเมืองท่าสำคัญที่เติบโตจนกลายเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือค้าขายระหว่างชาติตะวันตกและตะวันออก ต่อมามะละกาได้ตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตกทั้งโปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์ และอังกฤษ อาคารในมะละกาจึงมีลักษณะของสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปกรรมท้องถิ่นกับเจ้าอาณานิคมนั้น ๆ ซึ่งในปัจจุบันได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2008 มะละกาและจอร์จทาวน์ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากมีภูมิสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่ไม่ซ้ำใครทั้งในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
มะละกา เป็นเมืองเล็กน่าเที่ยวในมาเลเซียที่มีเสน่ห์และความน่าสนใจมากมาย ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา ผสมผสานได้ดีกับศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม ทำให้เมืองมะละกามีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์จนได้รับการยกย่องให้เป็นอีกหนึ่งเมืองมรดกโลกในเอเชีย จากประเทศไทยยังสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่ายและมีวิธีการเดินทางหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนั่งเครื่องบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปลงยังท่าอากาศยานมะละกา (Malacca International Airport) ของเมืองมะละกา หรือว่าจะนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปลงยังท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur International Airport) แล้วขึ้นรถบัสจากสถานีขนส่งเบอร์เซปาดู เซอลาตัน (Terminal Bersepadu Selatan) ไปลงที่สถานีขนส่งมะละกา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 11 - 15 RM เพียงแค่นี้เราก็สามารถออกเดินทางค้นหาเสน่ห์ของเมืองมะละกานี้ได้อย่างสะดวกสบายแล้ว
แม่น้ำมะละกา (Melaka River) หัวใจแห่งเมืองมรดกโลก อีกหนึ่งมนตร์เสน่ห์ที่จะทำให้เราตกหลุมรักเมืองเล็กๆ แห่งนี้ แม่น้ำมะละกาเป็นแม่น้ำสายสำคัญและเป็นต้นกำเนิดที่สำคัญที่สุดของประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ในกลางเมืองมะละกาติดกับถนนยองเกอร์สตรีท เดิมทีมะละกาเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการนำเข้า - ส่งออกสินค้าที่เรารู้จักกันในนามของ
“ช่องแคบมะละกา” แม้ว่าปัจจุบันจะไม่ได้เป็นเมืองท่าที่สำคัญแล้ว แต่แม่น้ำสายนี้ก็ยังคงความสวยงามและวิถีชีวิตของชาวเมืองมะละกาไว้ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีบริการนั่งเรือชมอาคารบ้านเรือนและวิถีชีวิตของชาวมะละกาไว้รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก https://th.wikipedia.org/wiki/
และจาก https://travelblog.expedia.co.th/asia/bd06_july18/