เปิดบริการตั้งแต่ 29 มกราคม 2550 - ปัจจุบัน
| เปิดบริการมาแล้ว 17 ปี 10 เดือน 22 วัน
24/07/2018 | by WTravel

ปรเทศเวียดนาม หรือมีชื่อเรียกทางการคือ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรามานาน มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายที่ไม่ควรพลาด แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม แหล่งประวัติศาสตร์ และอีกมากมาย และอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราด้วย วันที่เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของเวียดนามสุดฮิตที่คุณไม่ควรพลาด

1.อ่าวฮาลอง

อ่าวฮาลอง หมายถึงอ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง อ่าวฮาลองมีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว คือถ้ำเสาไม้ เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือ เกาะกั๊ตบ่าและเกาะต่วนเจิว

ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร บนเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนวนมากคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่น ๆ บางเกาะก็มีชายหาดที่สวยงาม

ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชม บางเกาะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง สถานที่ท่องเที่ยวที่ไปเวียดนามแล้วไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

2.เมืองนาข้าว ซาปา

ซาปาเป็นเมืองชายแดนตอนเหนือของประเทศเวียดนามในจังหวัดหล่าวกาย มีจุดเด่นคือมีการทำนาขั้นบันไดมากทำให้มีภูมิทัศน์สวยงามแก่การท่องเที่ยว

เดิมซาปาเป็นเมืองตากอากาศของเจ้านายชั้นสูงชาวฝรั่งเศสที่มาทำงานในเวียดนาม จึงมีสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนและการวางผังเมืองแบบอาณานิคมฝรั่งเศส (French Colonial) มีจุดเด่นที่ตั้งอยู่กลางเมืองคือ โบสถ์คาทอลิก เป็นเมืองที่แสนดรแมนติกและวิวที่สวยงาม ที่รอให้คุณไปเยือนเก็บภาพความประทับใจไม่ให้ลืมเลือน

3.สุสานโฮจิมินห์

เป็นที่เก็บร่างของผู้นำปฏิวัติโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิงห์อยู่ห่างจากทะเลสาบโฮฮว่านเกี๋ยมไปทางทิศตะวันตก 2 กิโลเมตร จัตุรัสกลางเมืองนี้เป็นที่ประธานาธิบดีโฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพเวียดนามจากฝรั่งเสสต่อหน้าชาวเวียดนามที่มาชุมนุมกันอยู่ในจัตุรัสมากกว่า 500,000 คน เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ.1945

4.ทะเลสาบคืนดาบ

ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม หรือทะเลสาบคืน ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเขตเมืองเก่า มีตำนานเล่าขานกันถึงสถานที่แห่งนี้เป็นตำนานการสร้างชาติเวียดนามว่า ในศตวรรษที่ 15 จักรพรรดิเล เหล่ย แห่งราชวงศ์เล ได้ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ในการขับไล่ชาวจีนแห่งราชวงศ์หมิงที่รุกรานให้ออกไปจากเวียดนาม ในขณะที่พระองค์ประทับบนเรือ ณ ทะเลสาบแห่งนี้ ก็มีตะพาบยักษ์ตัวหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำและบอกให้พระองค์ส่งดาบนั้นกลับคืนแด่จ้าวมังกร ดาบนั้นก็ได้พุ่งออกจากฝักดาบเข้าไปในปากของตะพาบก่อนที่จะหายกลับลงไปสู่ใต้ผิวน้ำ อันเป็นที่มาของชื่อทะเลสาบคืนดาบ

โดยการเดินทางไปวัดหง็อกเซินจะมีสะพานไม้ ชื่อ "สะพานเทฮุก" (Thê Húc) หรือ "สะพานแสงอาทิตย์" มีสีแดงสดใสถือเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของฮานอย ข้ามจากฝั่งแผ่นดินใหญ่ไปยังวัดซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเล็กๆ ทางตอนเหนือของทะเลสาบ และยังมีหอคอยโบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 18 มีชื่อเรียกว่า "ท้าปสั่ว" (Tháp Rùa) ซึ่งหมายถึง "หอคอยเต่า" หรือ "หอคอยตะพาบ"

และในปัจจุบันยังมีหลายคนได้เห็นตะพาบยักษ์โผล่ขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำหลายต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูกาล ซึ่งเชื่อกันว่ามีอยู่ 3-4 ตัว ในสถานที่เลี้ยงในโลกเท่านั้น

5.โบสถ์นอร์ทเธอดาม

โบสถ์นอร์ทเธอดาม ตั้งอยู่บริเวณกลางเมือง บนถนน Han Thuyen ได้รับการก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้ระยะเวลาการสร้าง 6 ปีสำหรับโบสถ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม ลักษณะของตัวโบสถ์เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบ Neo-Roman มีหอคอยคู่สี่เหลี่ยมอยู่ด้านบนสูง 40 เมตรตั้งสูงเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่งดงาม

ด้านหน้าโบสถ์มีรูปแกะสลักพระแม่มารีสีขาวขนาดใหญ่ อ่อนช้อย สวยงาม ที่นี่จึงเป็นสัญลักษณ์ ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโฮจิมินห์ โฮจิมินห์ และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักเดินทางที่เมื่อเดินทางมาเยือนนครโฮจิมินห์จะต้องมาชมเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมนี้ พร้อมทั้งถ่ายรูปเก็บไว้เป็นภาพแห่งความทรงจำที่สวยงาม

6.ทะเลทรายที่มุยเน่

เมืองมุยเน่ (Mui Ne) เป็นเมืองชายทะเลทางเวียดนามใต้ในจังหวัดบิ่ญถ่วน (Binh Thuan) อยู่ห่างจากจากโฮจิมินห์ประมาณ 230 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ที่นี่มีชายหาดที่เป็นสันทรายขนาดใหญ่และดูคล้ายทะเลทรายที่นักท่องเที่ยวส่วนมากชอบไปถ่ายรูปเล่นกัน ทะเลทรายในมุยเน่ มี 2 แห่งคือ ทะเลทรายขาวและทะเลทรายแดง

ทะเลทรายขาว (White Sand Dune) อยู่ทางทิศเหนือของเมืองมุยเน่ ห่างไปประมาณ 20 กิโลเมตร ทะเลทรายแดง (Red Sand Dune) มีขนาดพื้นที่กว้างใหญ่ทอดตัวยาวตั้งแต่ริมฝั่งทะเลเข้าไปถึงแผ่นดินโดยมี อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 27 องศาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวชมคือช่วงเช้า หรือช่วงหลังบ่ายสามโมงเป็นต้นไป เนื่องจากเป็นช่วงที่กระแสลมไม่แรงและแดดไม่ร้อนจัดเกินไป มีหมู่บ้านใกล้ๆและชาวบ้านนำของพื้นเมืองมาขายมากมาย เพราะอยู่ใกล้กว่าทะเลทรายขาวจึงทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากกว่า เป็นไฮไลท์อีกที่ในเวียดนามที่คุณต้องมาเช็คอินและถ่ายรูปเก็บบรรยากาศอวดเพื่อนๆกันเต็มที่เลยละคะ

7.วัดเฉินก๊วก

เจดีย์เฉินก๊วกตั้งอยู่บนทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุด เป็นเจดีย์ในกรุงฮานอยที่เก่าแก่ที่สุดในเมือง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 โดยกษัตริย์ Ly Nam De เจดีย์มีขนาดใหญ่สูง 11 ชั้น, 15m สูง.

หอชั้นแต่ละคนมี 6 ประตูโค้ง ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิสีขาวที่มีความสวยงามมากๆ นอกจากตัวเจดีย์แล้วยังมีต้นศรีมหาโพธิ์ใหญ่ที่เป็นของขวัญจากกษัตริย์อินเดียสมัยก่อน สุสานพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในอดีต อีกทั้งวัดแห่งนี้ยังเป็นที่สักการะของพระสงฆ์ทั้งมหายานและหินยานด้วยเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวมากที่สุด

8.วัดเจดีย์เสาเดียว

วัดเสาเดียวในเขตใจกลางกรุงฮานอยได้รับการรับรองเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่นของเอเชีย เจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระจักรพรรดิลี้ ท้าย ตง ผู้ครองราชย์ในช่วงระหว่างปี 1028 ถึงปี 1054 แม้ว่าจะถูกฝรั่งเศสทำลายไปในช่วงถอยทัพออกจากเมือง แต่เจดีย์แห่งนี้ก็ยังถือเป็นอนุสาวรีย์แห่งสำคัญซึ่งได้รับการสร้างขึ้นใหม่อย่างสมบูรณ์ในปี 1955 เป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติมากมาย เป็นอีกที่หนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด

Cr.wikipedia

9.การแสดงหุ่นกระบอกน้ำ

หุ่นกระบอกเป็นการแสดงหุ่นกระบอกของเวียดนาม มีการแสดงเฉพาะที่ฮานอย ศิลปะการแสดงมีมากกว่า 1,000 ปี หุ่นกระบอกน้ำ ใช้ผู้เชิดอยู่หลังมู่ลี่ไม้ไผ่ที่มีการพรางไว้

ตัวหุ่นเชิดจะอยู่ที่ปลายไม้ที่ยาวพอที่จะยื่นออกมานอกฉากที่ผู้เชิดบังคับ มีกลไกบังคับมือหรืออวัยวะของหุ่นที่ทำจากไม้ฉำฉาที่เบาและพยุงน้ำหนักเมื่ออยู่ในน้ำ และการเชิดต้องไม่ให้เห็นไม้บังคับหุ่น จึงทำให้ดูเหมือนหุ่นมีลีลาของตนเอง เป็นการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศเวียดนามที่สร้างความประทับใจให้ชาวต่างชาติจนต้องกลับมาดูการแสดงอยู่เลื่อยๆ